ตัวเรือนของงาน Jewelry ที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ทำมาจาก
'แพลตินั่ม' (Platinum) – Pt900 , Pt950
“ทองชมพู”  (Pink Gold) – PG750
'ทองขาว' (White Gold) – 18K , 14K


แพลตินั่ม (Platinum) คือ “ทองคำขาว”  ซึ่งเป็นโลหะที่มีค่าที่สุด  และหายากที่สุดในโลก (แพลตินั่มจะเป็นสีขาวอมเทา)
Platinum ไม่ใช่ทองแต่มีค่ามากกว่าทอง แล้วก็แข็งกว่าทองมาก   platinum เป็นธาตุโลหะสีขาวที่แข็งที่สุด ไม่ ทำปฏิกิริยากับอากาศและไม่ละลายในกรด Hydrochloric acid หรือ Nitric acid โดยเป็นหนึ่งในโลหะมีค่าที่เนื้อละเอียด บริสุทธิ์ที่สุด หายากที่สุด และน้ำหนักมากที่สุด   แหวนที่ทำจาก platinumนี้จะแข็ง หักยาก บิ่นยาก ซึ่งทางโรงงานของเรามีความชำนาญในการทำตัวเรือนแพลตินั่ม  ในต่างประเทศ platinum ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจึงถูกเลือกเป็นตัวเรือนแหวน  ซึ่งในสมัยก่อนจะได้รับความนิยมจากชนชั้นสูงทางยุโรป  platinum มักถูกใช้เป็นตัวโลหะสำคัญในเทคโลยีสมัยใหม่เช่น เครื่องมือผ่าตัด เพราะไม่เป็นสนิท และนิยมมาทำเครื่องประดับ เพราะจะมีความขาวที่ยาวนานมาก(ไม่ลอกไม่ดำ) และโดยปกติจะมีความหนักกว่าทองคำเมื่อเทียบในปริมาณเท่ากัน และราคาจะแพงกว่าทองคำ ราวๆ 2 เท่า
เราอาจประมาณได้ว่า  แพลตินั่ม  ที่มีอยู่ทั้งหมดบนโลกนี้  สามารถเทลงในสระว่ายน้ำขนาด olympic จะได้ความสูงเกือบจะไม่ท่วมตาตุ่มของเรา  ในขณะที่  ทองคำ (Gold) สามารถเทลงในสระว่ายน้ำขนาดดังกล่าว ได้เต็มสระ มากกว่า 3 สระทีเดียว   โดยการก่อเกิดของ  แพลตินั่ม เพียง 1 ounce ต้องใช้แร่ธาตุทั้งหมดถึง 10 ตัน และใช้ระยะเวลาถึง 6-8 สัปดาห์  เมื่อเทียบกับการเกิดของ  ทองคำ  1 ounce กลับใช้แร่ธาตุทั้งหมดเพียง 3 ตัน และใช้ระยะเวลาเพียง 5 วัน  หรืออาจกล่าวได้ว่า  แพลตินั่ม  หายากกว่าทองคำ ถึง 35 เท่า
ตัวเรือนแพลตินั่ม เป็นโลหะที่มีอยู่ในธรรมชาติและมีสีขาวโดยทั่วไปมีการนำมาใช้ในการผลิต เครื่องประดับมานานแล้วในต่างประเทศเพราะมีความแข็งแรงทนทานแต่มีราคาสูง กว่าทองคำเกือบ 30-40%  'แพลตินั่ม' มักจะมีส่วนผสมของ iridium หรือ ruthenium อยู่ประมาณ 5-10% ของตัวเรือนแหวน  เนื่องจากทั้ง iridium และ ruthenium เป็นโลหะมีค่าที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ 'แพลตินั่ม'  ซึ่ง 'แพลตินั่ม' จัดเป็นเครื่องประดับที่เหมาะที่สุดสำหรับผิวที่แพ้ง่าย
ในขณะที่ 'ทองคำ' มักจะมีส่วนผสมของ silver , copper (ทองแดง) , nickel และ zinc อยู่ประมาณ 25-42% ของตัวเรือนแหวน  'แพลตินั่ม' โดยทั่วๆไป จะมีความบริสุทธิ์ประมาณ 95% (ทองคำ 18k มีความบริสุทธิ์ 75%)  เครื่องประดับ 'แพลตินั่ม' จะไม่ซีดจาง และจะคงความเงางามไปตลอดอายุการใช้งาน  ความคงทนจากการทดสอบ เมื่อใช้งานไปนานๆ 'แพลตินั่ม' เป็นโลหะมีค่าที่คงทนที่สุดชนิดหนึ่ง  เมื่อเกิดเป็นริ้วรอย หรือการขีดข่วน 'แพลตินั่ม' จะไม่สูญเสียเนื้อโลหะ  ในขณะที่ 'ทองคำ' มักจะสูญเสียเนื้อโลหะไปเล็กน้อย ทุกๆครั้งที่เกิดการขีดข่วน หรือ ทุกครั้งที่นำไปขัด  ปกติ 'หนามเตย' ของเครื่องประดับ 'ทองคำ' และ 'ทองขาว' มักจะมีการสึก หลังการใช้งานไประยะหนึ่ง  ต้องมีการเติมโลหะเพิ่มเข้าไป เพื่อให้พลอยไม่หลุดง่ายๆ ซึ่งคุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง เมื่อเทียบกับเครื่องประดับ 'แพลตินั่ม'
เครื่องหมายของ แพลตินั่ม (Platinum) คำที่เราใช้เป็นสัญญลักษณ์ หรือ บ่งบอกว่าเป็น แพลตินั่ม ที่เรามักจะเห็นปรากฎอยู่บนเครื่องประดับเสมอๆ ได้แก่ Platinum , Plat , Pt , Pt950 , 950Pt , 950Plat , Plat950 , 900Pt , Pt900 และ 900Plat
 
ทองขาว (White Gold)  คือ ทองคำสีเหลือง ที่ผ่านกรรมวิธีทำให้ดูเป็นสีขาว  แต่คุณสมบัติที่แท้จริง ยังคงเหมือนกับ 'ทองคำสีเหลือง' และเมื่อใช้ไปนานๆ สีเหลืองของทองคำแท้  จะค่อยๆ ปรากฎให้เห็น ทำให้เราต้องนำไปเคลือบซ้ำให้เป็น 'สีขาว' บ่อยๆ    ทองขาว จะไม่เงาวาวเหมือน Platinum ดังนั้นถ้าทำเครื่องประดับ เค้ามักจะนำไปชุบด้วย Rhodium ให้มีสีเหมือนแพลตินั่ม  แต่ทองขาวไม่ใช่ Platinum  ถ้าเปิดพจนานุกรมจะบอกว่า Platinum เป็นทองคำขาว ทำให้คนเข้าใจผิดกันมาก แพลตินั่ม เป็นธาตุบริสุทธิ์ชนิดหนึ่ง มีความหนาแน่นสูงกว่าทองคำ (ดังนั้นขนาดเท่ากันจะรู้สึกว่ามันหนักกว่าทองพอสมควร) แข็งกว่าทองและมีความมันวาวเมื่อขัด ไม่ต้องการการชุบเงา ปกติที่นิยมใช้ทำเครื่องประดับกัน

ทองสีชมพู (Pink Gold) ก็คือทองกะรัต (K) ที่มีส่วนผสมของทองคำตามปริมาณของค่ากะรัตของทองคำและทองแดงเป็นหลัก โดยถ้ามีค่ากะรัตต่ำก็จะมีปริมาณของทองแดง สูงขึ้นเช่น ถ้าทอง 9-10 K ก็จะมีปริมาณทองแดงสูงมากถึง 35-45% ขึ้นอยู่กับตัวอัลลอยที่ใช้
และสูตรผสมของแต่ละบริษัท Pink Gold เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากความสวยงามสีสันที่สดใส และดูแตกต่างไปจากทองคำรูปพรรณที่มีสีเหลือง อีกทั้งยังมีความคงทนกว่าทองคำรูปพรรณ  คือมีความแข็งมากกว่า จึงนิยมนำมาทำตัวเรือนเครื่องประดับ เช่น แหวน ต่างหู กำไลข้อมือและอื่น ๆ ค่าความบริสุทธิ์ของทองผสมที่นิยมใช้ในประเทศไทยที่ผลิตเป็น Pink Gold  ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 14K-18K ในประเทศไทยได้มีการทำทองที่มีลักษณะเป็น Pink Gold มานานแล้ว  แต่บ้านเราเรียกกันว่า นาค ซึ่งจะมีเปอร์เซ็นต์ของทองคำอยู่ที่ 40 - 60% และลักษณะของสีจะไม่แน่นอน เนื่องจากการผสมตัวอัลลอยของแต่ละร้านทองที่ทำมีปริมาณที่แตกต่างกันออกไปนั้นเอง อีกทั้งรูปแบบลวดลายไม่ทันสมัย ซึ่งแตกต่างกับปัจจุบันที่มีการออกแบบสวยงาม และมีการใช้ทองคำสีผสมสีต่างๆ ที่สะดุดตาเพิ่มขึ้นมา เช่นการทำแหวนที่มี 3 สี (สามกษัตริย์) ที่ประกอบไปด้วยสีเหลือง ขาว และ สีชมพู
 PG750, PG589 หรือ 18K